รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

     เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง บ้านใหม่เจริญ หมู่ 14 ตำบลป่าแดด อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยมีนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ชมรมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด กลุ่มเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
     โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง เป็นอ่างเก็บน้ำที่ก่อสร้างเพิ่มเติมจากอ่างเก็บน้ำแม่สรวย เนื่องจากพื้นที่มีการทำการเกษตร นาข้าว สวนลำไย ชา กาแฟ พืชผักอื่นๆ ทำให้อ่างเก็บน้ำแม่สรวยที่มีความจุดประมาณ 73 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำไปยังพื้นที่บางส่วนของ อ.แม่สรวย และพื้นที่ใกล้เคียงของ อ.พาน อ.แม่ลาว เท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาและความจำเป็นต่อการใช้น้ำของเกษตรกรให้ทั่วถึงพื้นที่มากขึ้น คณะรัฐมนตรี จึงมีมติเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 อนุมัติให้กรมชลประทานทำการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ด้วยงบประมาณ 1,325.28 ล้านบาท ปัจจุบันสถานะโครงการก่อสร้างฯ จะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปีตั้งแต่ปี 2567-2570 หากโครงการก่อสร้างฯ แล้วเสร็จ จะเป็นแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคของราษฎร 4,775 ครัวเรือน เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ตำบลป่าแดด  และพื้นที่บางส่วนของตำบลศรีถ้อยและตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย สามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 17,200 ไร่ ส่งผลในเรื่องผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 2,843 ครัวเรือน ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้ง ช่วยบรรเทาอุทกภัยในฤดูฝน สามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ อนุรักษ์สัตว์น้ำ และรักษาสภาพต้นน้ำลำธารฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้ดีขึ้น
     ร.อ.ธรรมนัสฯ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาดูความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ทางอธิบดีกรมชลประทานได้แจ้งถึงความพร้อมว่าจะมีการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป หลังจากที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้กลั่นกรองงบประมาณในการประชุมครั้งแรกในวันอังคารที่ 12 กันยายนนี้ คาดว่าจะได้งบประมาณเพื่อนำมาดำเนินโครงการได้ในปีงบประมาณ 2567 โดยใช้ระยะเวลากลั่นกรองประมาณ 3 เดือนหรืออาจเร็วกว่านั้น จากนั้นจะดำเนินการได้หลังปีใหม่ 2567 
     ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัสฯ ได้พบปะรับฟังปัญหาจากเกษตรกรในพื้นที่และรับมอบหนังสือเพื่อติดตามโครงการด้านการเกษตรจากเกษตรกร 8 จังหวัดในภาคเหนือ โดยกล่าวว่า สำหรับภาคเหนือลำไยถือว่าอยู่คู่กับพื้นที่มานานและเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีกฎหมายที่ประกาศใช้เพื่อคุ้มครองพืชชนิดนี้แม้แต่ฉบับเดียวจึงสงสัยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางไปขอให้ตนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายคนผลักดันกฎหมายเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองพืชลำไย วันนี้ตนมีหน้าที่โดยตรงจึงจะผลักดัน พ.ร.บ.นี้ให้สำเร็จต่อไป


image รูปภาพ
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar